สัปดาห์ที่ 7 การประเมินแหล่งสารสนเทศบนเว็บไซต์ และการ Search Engine

เรื่อง การประเมินแหล่งสารสนเทศบนเว็บไซต์ และการ Search Engine

Search Engine คือเป็นเครื่องมือหรือโปรแกรมในการค้นหาเว็บต่างๆ โดยมีการเก็บชื่อเว็บไซต์ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่างๆ ของเว็บไซต์ และนำมาจัดไว้ใน server เพื่อให้สามารถค้นหาและแสดงผลได้สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
Web directory คือ
การแบ่งหมวดหมู่เป็นกลุ่มโดยการจัดเก็บในฐานข้อมูล ถ้ามีผู้สนใจคลิกเลือก รายงานต่าง ๆใน directory ที่จัดสร้างขึ้น ก็จะนำข้อมูลออกมาแสดงผล
ประเภทของ Search Engine
1.Keyword Index ให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับข้อมูล ก่อน-หลัง และความถี่ในการนำเสนอข้อมูลนั้น
2.Subject Directories จัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เนื้อหารายละเอียด ของแต่ละเว็บเพจ ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร
3.Meta search Engine เชื่อมโยงไปกับ Search Engine ประรเภทอื่นๆ และมีความหลากหลายของข้อมูล
การใช้เครื่องหมาย + หรือ and ในการสืบค้นข้อมูล
การใช้ระบุเอกสารที่ต้องการสืบค้น โดยต้องมีคำสำคัญในการสืบค้นด้วย
การใช้เครื่องหมาย - ในการสืบค้นข้อมูล
ใช้ระบุการค้นหาเอกสาร โดยไม่ต้องการปรากฏคำสำคัญ
การใช้เครื่องหมายอัญประกาศ "" ในการสืบค้นข้อมูล
ใช้คร่อมคำสำคัญ เป็นวลีที่มีช่องว่างระหว่างคำ เพื่อให้ปรากฏเอกสารที่มีรูปแบบนั้นๆ
การใช้เครื่องหมาย OR "" ในการสืบค้นข้อมูล
เป็นการค้นหาเว็บไซต์ที่มีคำใดคำหนึ่งในช่องค้นหา หรือมีทั้งสองคำก็ได้
การค้นแบบ Basic Search กับการค้นหาแบบ Advance Search มีข้อดีและข้อด้อย คือ
Basic Search ค้นหาแบบกว้าง ๆ อาจจะไม่ได้ประเด็นที่ต้องการ
Advance Search ค้นหาแบบละเอียด มีความแม่นยำ ครอบคลุม ตามที่ต้องการ
Search Engine กับ Web Directory
Search Engine ใช้ซอฟแวร์ที่เรียกว่า สไปเดอร์ สำหรับท่องไปในเว็บ เพื่อเก็บข้อความและจัดลำดับแต่ละเว็บ เพื่อเก็บข้อความและจัดลำดับแต่ละเว็บที่พบ
Web Directory ใช้สำหรับคัดเลือกเว็บเพจและจัดเรียงเว็บเพจตามประเภทของข้อมูล
Search Bar เป็นการค้นหาข้อมูลโดยการนำโปรแกรมมาติดตั้งภายในเครื่องของเรา โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปในเว็บไซต์นั้นโดยตรง และมีช่องว่างให้เราใส่คำที่เราองการค้นหา
ประโยชน์ของ Search Engine
- ค้นหาเวบที่ต้องการได้สะดวกรวดเร็ว
- สามารถค้นหาแบบเจาะลึกได้
- สามารถค้นหาจากเวบไซต์เฉพาะทาง ที่มีการจัดทำไว้
- มีความหลากหลายในการค้นหาข้อมูล
เทคนิคการค้นหาให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
- บีบประเด็นให้แคบลง
- การใช้คำที่ใกล้เคียง
- การใช้คำหลัก (Keyword)
- หลีกเลี่ยงการใช้ตัวเลข
- ใช้เตรื่องหมายบวกและลบช่วย
- หลีกเลี่ยงภาษาพูด
- Advanced Search
โดเมนเนม ของเว็ปไซด์ในประเทศไทย
-.co.th หมายถึง บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำจัด องค์กรต่างๆ
-.ac.th หมายถึง สภาบันการศึกษา
-.in.th หมายถึง บุคคล บรัษัท องค์กร
-.go.th หมายถึง หน่วยงาน รัฐบาล ราชการ
-.net.th หมายถึง กลุ่มเครือค่าย
-.or.th หมายถึง องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร มูลนิธิ สมาคม ชมรม ศูนย์สถานทูต
-.mi.th หมายถึง หน่วยงานทางราชการทางทหาร
เกณฑ์การประเมินเวบไซต์
- จุดมุ่งหมาย
- วัตถุประสงค์
- สารสนเทศที่สนอสอดคล้องกับวัตุประสงค์
- จุดมุ่งหมายสอดคล้องกับกลุ่มผู้ใช้
- กลุ่มเป้าหมายของเวบ
- เอกสารนำเสนอไว้ที่ใด
- สารสนเทศที่นำเสนอมีความพอใจกับความต้องการของผู้ใช้
- ขอบข่ายของเยื้อหา
- ความก้วงขิองเนื้อหา
- ความลุ่มลึกของเนื้อหา
- ช่วงเวลสความทันสมัยในการนำเสนอ
- รูปแบบเนื้อหา
- เนื้อหา
- ความถูกต้อง
- หลักญฐานในการเขียน
- ความเป็นปัจจุบัน
- ความเป็นประนัย
- ลักษณะเฉพาะ
- การเชื่อมโยงไปยังแหล่งสารสนเทศอื่นๆ
- ความสามารถในการเข้าถึง
- การวิเคราะห์เวบโดยผู้อื่น

9 คำพ่อสอน

สัปดาห์ที่ 6 การวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศด้วยการสร้างแผนภูมิ แผนภาพ แผนสถิติใน XLS

เรื่อง การวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศด้วยการสร้างแผนภูมิ แผนภาพ แผนสถิติใน XLSมิใน

โปรแกรมคอมพิวเตอร์มีทั้งหมด 14 รูปแบบ
1.คอลัมน์
2.แท่ง
3.เส้น
4.วงกลม
5.XY (กระจาย)
6.พื้นที่
7.โดนัท
8.เรดาร์
9.พื้นผิว
10.ฟอง
11.หุ้น
12.ทรงกระบอก
13.ทรงกรวย
14.พีระมิด
การวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศด้วยการสร้างแผนภูมิ แผนภาพ แผนสถิติใน XLS

โปรแกรมดาวน์โหลดข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตมีชื่อว่า
- IDM หรือ Internet Download Manager


คลิปวิดีโอ 9 คำพ่อสอน เรื่อง อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ

สัปดาห์ที่ 5 การทำ MindManager

เรื่อง การทำ MindManager

โปรแกรมที่ใช้ในการสร้างผังความคิดคือ Mindjet MindManager Pro 6.0
Central Topic คือ หัวข้อหลักที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประเด็น
Sub Topic คือ หัวข้อย่อย เช่นรายละเอียดต่าง ๆ
Main Topic คือ หัวข้อหลัก ประเด็นหลัก
ขั้นตอนการลงโปรแกรม
1. ให้copy แฟ้มโปรแกรม Mindjet MindManager 6.0 ซึ่งมี 4 แฟ้มโฟลเดอร์
2. ให้เปิดแฟ้มโปรแกรมขึ้นมาและเลือกชื่อแฟ้ม MM60-E-643_Pro.exeเพื่อลงโปรแกรมโดย Double Click ที่แฟ้มนี้
3. ให้ลงโปรแกรม Install ตามขั้นตอนไปโดยกดคำศัพท์ Next -- Complete -- OK -- Install -- เลือกเมือง other Country --
4. ใส่ keygen คือตัวเลขที่มีอยู่ในตัวไอคอน I จาก 4 แฟ้มที่ copy มาครั้งแรก
5. คัดลอกรหัสผ่านเพื่อลงโปรแกรมอย่างสมบูรณ์
6. ใส่รหัสผ่านให้ครบ
7. เมื่อใส่รหัสผ่านครบโปรแกรมจะทำการลงโปรแกรมอย่างสมบูรณ์
8. เมื่อลงโปรแกรมเรียบร้อย ถ้าพบหน้าจอให้ register ให้ register later
เทคนิคการเขียนผังความคิด
1. ให้แตกประเด็นหัวข้อหลักและหัวข้อย่อยให้ได้มากที่สุด
2. ในการแตกประเด็นแต่ละหัวข้อ ควรเขียนเฉพาคำสำคัญเท่านั้นโดยหลีกเลี่ยงประโยคที่มีความยาว
3. ควรใช้สีในการแยกแยะประเด็นต่าง ๆ มากกว่า 2 สีขึ้นไป
4. ตัวอักษรกับพื้นหลังต้องใช้สีตัดกัน
5. รูปพื้นหลังที่นำมาเป็นส่วนประกอบของผังความคิด จะต้องมีความเกี่ยวพันธ์กับเนื้อหาและประเด็นนั้น ๆ

การบันทึกงานในสกุล .mmap- ใช้ในการแก้ไขผลงานและใช้ในการนำเสนอผลงาน
การบันทึกงานในสกุล .jpeg- save เป็น image นำเสนอใน blog ไม่สามารถแก้ไขได้

สัปดาห์ที่4 วิธีสืบค้นวัสดุสารสนเทศ Web OPAC

เรื่อง วิธีสืบค้นวัสดุสารสนเทศ Web OPAC

ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ฐานข้อมูลของทางหอสมุดมหาวิทยาลัยบูรพาว่ามีฐานข้อมูลอะไรบ้างและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง และได้ทดลองเข้าใช้ฐานข้อมูลต่างๆ ด้วยตนเองโดยเข้าถึงได้ที่ www.lib.buu.ac.th และสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลได้โดยดูที่หัวข้อด้านขวาที่ชื่อว่า Services For User และเลือกฐานข้อมูลที่จะเข้าไปใช้ได้ในหัวข้อดังนี้ WEB OPACE-JournalE-Bookฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์E-Contentsวิทยานิพนธ์/วิจัย/บทความ มหาวิทยาลัยบูรพา(DCMS)วิทยานิพนธ์/วิจัย/บทความ มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ(TDC)เครือข่ายห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา จังหวัดชลบุรี

สัปดาห์ที่ 3 การคิดวิเคราะห์

เรื่อง การคิดวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ

การคิด คือการที่คนๆหนึ่งพยายามใช้พลังทางสมองของตน ในการนำเอาข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ต่างๆ ที่มีอยู่ มาจัดวางอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้มา ซึ่งผลลัพธ์ เช่น การตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ดีที่สุด เป็นต้น
การคิดวิเคราะห์ หมายถึงการจำแนกแจกแจงองค์ประกอบต่างๆ ของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และหาความสัมพันธ์เชิงเหตุผล ระหว่างองค์ประกอบเหล่านั้น เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริง ของสิ่งที่เกิดขึ้น
การคิดสังเคราะห์ หมายถึงความสามารถในการดึงองค์ประกอบต่างๆ มาผสมผสาน หลอมรวมเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้สิ่งใหม่ ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
การใช้เทคนิค 5W1H ในการคิดวิเคราะห์
Whoใคร(ในเรื่องนั้นมีใครบ้าง)
Whatทำอะไร(ทำอะไรบ้าง)
Whereที่ไหน(เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นอยู่ที่ไหน)
Whenเมื่อไหร่(เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นอยู่ที่ไหนทำเมื่อวัน เดือน ปี ใด)
Whyทำไม(เหตุใดจึงได้ทำสิ่งนั้น หรือเกิดเหตุการณ์นั้นๆ)
Howอย่างไร(เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นอยู่ที่ไหนทำเป็นอย่างไรบ้าง)